สรุปฟีเจอร์เด่นและราคา Garmin Forerunner 945 LTE

หลายๆ คนอาจจะผิดหวังนิดๆ ที่ทาง GARMIN ไม่ได้ปล่อยรุ่น Forerunner 955 รุ่นต่อไปของ Forerunner 945 แต่การ์มินเองกลับเปิดตัวรุ่นย่อยออกมานั่นก็คือ Forerunner 945 LTE

GARMIN FORERUNNER 945 LTE สีดำและสีขาวใหม่

จากชื่อแล้วก็คงพอจะเดาได้ว่า LTE นั้นเป็นรุ่นที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายได้โดยไม่ต้องพึ่งสัญญาณจากโทรศัพท์ เช่นเดียวกับเหล่าสมาร์ทวอชที่ต่อท้ายด้วยคำเดียวกันนี้เอง GARMIN Forerunner 945 LTE สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์ได้ด้วยตัวของมันเอง แต่จุดประสงค์หลักของการเชื่อมต่อนี้เพื่อเป็นการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือและระบุตำแหน่งของผู้ใช้งานเมื่อเกิดเหตุรายขึ้นโดยเฉพาะ โดยทางการ์มินได้ตั้งชื่อฟีเจอร์นี้ไว้ว่า Emergency Assistance Plus

มีอะไรใหม่ และ ความแตกต่าง ของ Garmin Forerunner 945 LTE

1. 📶 LTE Connectivity เชื่อมต่อระบบเครือข่ายได้เสียค่ารายเดือนให้กับทาง Garmin ในราคา $5.99/เดือน (แพคเกจ 1 ปี) หรือ $6.99/เดือน (แพคเกจรายเดือน) ปัจจุบันยังไม่มีประเทศไทย สำหรับการเชื่อมต่อกับเครือข่ายนั้นอย่างที่เขียนไว้ข้างต้น วัตถุประสงค์หลักของการใช้งานคือเพื่อการติดตามตำแหน่งและการช่วยเหลือยามฉุกเฉินเท่านั้น ไม่สามารถส่งข้อความไปมาหรือส่งรูปภาพได้เหมือนกับสมาร์ทวอชแบบทั่วไป ยังไงเราคงต้องดูกันต่อไปจากทางการ์มินประเทศไทยเองว่าจะนำฟีเจอร์นี้มาใช้ในบ้านเราได้หรือไม่

2. 🆘 Emergency Assistance Plus สามารถส่งขอความช่วยเหลือ (และตำแหน่งที่ตั้ง ณ ขณะนั้น) ไปยังหน่วยงานกู้ภัยหรือไปยังรายชื่อใน Emergency contact ของเราได้ สำหรับหน่วยงานกู้ภัยนั้นทาง Garmin เป็นผู้ประสานงานโดยหน่วยที่เรียกว่า Garmin-powered International Emergency Response Coordination Center (IERCC) (https://www.geosresponse.com/) การส่งข้อความฉุกเฉินนี้สามารถทำได้ 2 ทางคือ

   1. ผู้ใช้ Activate ด้วยตัวเอง

   2. เมื่อตัวนาฬิกา Detect การเกิดอุบัติเหตุ

3. 📡 Live Track แสดงตำแหน่งของผู้ใช้งานบน Garmin Connect เพื่อให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวสามารถติดตามการวิ่ง ปั่นจักรยาน ฯลฯ ของเราได้แบบสดๆ โดยไม่ต้องพึ่งสัญญาณจากโทรศัพท์ (เดิมเป็นฟีเจอร์ที่ต้องทำงานร่วมกับโทรศัพท์)

4. 🏁 Live Event Tracking ส่งข้อความให้กับเพื่อนหรือครอบครัวถึงสถานะของผู้ใช้งานแบบอัตโนมัติ โดยข้อความเหล่านั้นเป็นข้อความที่ผู้ใชได้ตั้งไว้ล่วงหน้า เช่น มาถึงเช็คพอยน์แล้ว หรือ เข้าเส้นชัยแล้วเป็นต้น (เดิมเป็นฟีเจอร์ที่ต้องทำงานร่วมกับโทรศัพท์)

5. ✉️ Spectator Messaging ผู้ที่ติดตามการวิ่งหรือปั่นจักรยานสามารถส่งข้อความหาผู้ใช้งานได้

6. 🎧 Spectator Audio Messages ผู้ที่ติดตามการวิ่งหรือปั่นจักรยานสามารถส่งข้อความเสียงมาได้ แต่ต้องฟังเสียงผ่านหูฟังเท่านั้น

7. 💖 Optical HR Sensor ใหม่ - เป็นเวอร์ชั่นใหม่รุ่นเดียวกับ Garmin Venu 2

8. ⌚ ขนาดตัวเรือนเล็กกว่า Forerunner 945 เล็กน้อย ประมาณ 2 มม. แต่ขนาดหน้าจอแสดงผลยังเท่าเดิม

9. 🏃‍♂️ Automatic Interval Categorization ตั้งชื่อการวิ่งโดยอัตโนมัติสำหรับการฝึกแบบ Interval เช่น ระหว่างที่เดิน Recovery ระหว่างเซ็ตการซ้อม Interval ตัวนาฬิกาจะระบุช่วงกันเดินเป็น Rest เองโดยอัตโนมัติ

10. 📊 Interval Data Page Mode ตัวช่วยสำหรับการซ้อม Interval โดยจะแสดงผลการ Workout แบบ Interval ให้ดู ช่วยให้ผู้ใช้ไม่สับสนว่าวิ่ง Interval ไปแล้วกี่เซ็ต ผู้ใข้งานเพียงกด Lap หลังจากแต่ละ Workout เท่านั้น (ตัวนาฬิกาจะ Detect เองว่าเป็น Recovery หรือ Workout)

11. 🎨 Interface เปลี่ยนเแปลง ต่างจาก Forerunner 945 เล็กน้อย

สำหรับราคาของ Forerunner 945 LTE อยู่ที่ $649 โดยจะแพงกว่ารุ่นธรรมดาประมาณ $50